top of page

LLM Fine-Tuning: วิธีการปรับแต่งโมเดลภาษาขั้นสูงให้ตอบโจทย์งานของคุณ

Writer's picture: Rujirapong RitwongRujirapong Ritwong

ในยุคที่เทคโนโลยี Generative AI ถูกพัฒนาอย่างมากและมีการใช้งานมากมายในปัจจุบัน หนึ่งในเทคนิคที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับองค์กรที่ต้องการทราบคือการทำ Fine-Tuning บน Large Language Models (LLM) ซึ่งเป็นการปรับแต่งโมเดลภาษาขนาดใหญ่ให้เหมาะกับงานเฉพาะทางของคุณ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "Fine-Tuning คืออะไร? และทำไมถึงสำคัญ?" มาหาคำตอบกันเลย!


Fine-Tuning คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?


Fine-Tuning เป็นเหมือนการ "สอนพิเศษ" ให้กับ AI ที่มีความรู้ทั่วไปอยู่แล้ว ให้เก่งเฉพาะทางมากขึ้น เปรียบเสมือนนักเรียนที่เรียนรู้วิชาพื้นฐานมาแล้ว แต่ต้องการเน้นเฉพาะวิชาที่จะใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย

การทำ Fine-Tuning มีความสำคัญเพราะ:


  1. ช่วยให้ AI เข้าใจภาษาเฉพาะทางของคุณ

  2. ปรับปรุงความแม่นยำในการตอบคำถามเฉพาะด้าน

  3. ลดการตอบผิดพลาดหรือออกนอกประเด็น


3 วิธีหลักในการทำ Fine-Tuning


เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่นิยมใช้ในการทำ Fine-Tuning พร้อมตัวอย่างที่จะช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น


1. Self-Supervised Fine-Tuning: เรียนรู้ด้วยตัวเอง


วิธีนี้เหมือนการให้ AI อ่านหนังสือเล่มหนาๆ แล้วพยายามเดาว่าประโยคต่อไปจะเป็นอย่างไร


วิธีการ:

  • ใช้ข้อมูลที่ไม่มีคำตอบ (เช่น บทความ, นิยาย)

  • AI จะพยายามทายคำหรือประโยคถัดไป


ตัวอย่าง: ลองนึกภาพว่าคุณกำลังอ่านนิยายแล้วปิดบางคำไว้ แล้วให้เพื่อนทาย เช่น "เจ้าหญิงนั่งอยู่บน______สีขาว" (คำตอบที่อาจเป็นไปได้: ม้า, บัลลังก์)


ประโยชน์:

  • เหมาะสำหรับการเลียนแบบสไตล์การเขียน

  • ช่วยให้ AI เข้าใจบริบทของเนื้อหาได้ดีขึ้น


2. Supervised Fine-Tuning: เรียนรู้แบบมีครูสอน


วิธีนี้เหมือนการให้ AI ทำข้อสอบที่มีเฉลยพร้อมอยู่แล้ว


วิธีการ:

  • ใช้ข้อมูลที่มีคำถามและคำตอบชัดเจน

  • AI จะเรียนรู้จากตัวอย่างเหล่านี้


ตัวอย่าง: คำถาม: "เมืองหลวงของฝรั่งเศสคือที่ไหน?" คำตอบ: "เมืองหลวงของฝรั่งเศสคือปารีส"

ประโยชน์:

  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการคำตอบแม่นยำ

  • ช่วยให้ AI เชี่ยวชาญในหัวข้อเฉพาะทาง




3. Reinforcement-based Fine-Tuning: เรียนรู้จากการให้รางวัล

วิธีนี้เหมือนการฝึกสุนัข เมื่อทำดีก็ให้รางวัล เมื่อทำไม่ดีก็แก้ไข


วิธีการ:

  • นำผลลัพธ์จาก AI มาให้คนประเมิน

  • ใช้ "โมเดลรางวัล" เพื่อปรับปรุง AI ตามคำแนะนำ


ตัวอย่าง: AI: "แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก" คน: "ดีแล้ว แต่ช่วยเพิ่มข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลแมวด้วย" AI (หลังปรับปรุง): "แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก การดูแลแมวต้องให้อาหารที่เหมาะสม, ทำความสะอาดกรงทราย, และพาไปหาหมออย่างสม่ำเสมอ"


ประโยชน์:

  • ช่วยให้ AI ปรับปรุงตัวเองตามความต้องการของผู้ใช้

  • เพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับหลักการ Continue Improvment


สรุป: เลือกวิธีให้เหมาะกับงานของคุณ


การทำ Fine-Tuning เป็นเครื่องมือทรงพลังในการปรับแต่ง AI ให้ตอบโจทย์งานเฉพาะทาง แต่ละวิธีมีข้อดีต่างกัน:


  • Self-Supervised เหมาะกับการเรียนรู้สไตล์การเขียน

  • Supervised เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง

  • Reinforcement-based เหมาะสำหรับการปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง


ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมตามเป้าหมายของคุณ และจำไว้ว่าการทดลองและปรับแต่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!


หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวคิดของการปรับปรุง LLM ได้ดียิ่งขึ้นครับ

47 views0 comments

Comments

Rated 0 out of 5 stars.
No ratings yet

Add a rating
bottom of page