ช่วงนี้เรามักจะได้ทราบข่าวว่า การพัฒนา AI ในปัจจุบันน่าจะเข้าใกล้คำว่า AGI ในเร็วๆนี้แล้ว หลายคนยังคงสงสัยว่า AGI (Artificial General Intelligence) คืออะไร ระดับไหนถึงเรียกว่า AGI เรามาศึกษาจาก 5 ระดับของ AI ที่ CEO OpenAI Sam Altman พูดไว้ โดยได้แบ่งระดับการพัฒนาของ AGI ออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้:
ระดับที่ 1: Chatbot AI หรือ Conversational AI
AI ในระดับนี้สามารถโต้ตอบกับมนุษย์ผ่านข้อความหรือเสียง โดยใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ทำให้ตอบคำถามและสนทนาได้อย่างคล่องแคล่ว
ตัวอย่าง:
• ปัญหา: ลูกค้าต้องการสอบถามข้อมูลสินค้าหรือการใช้งานระบบ
• แนวทางการใช้งาน: ผู้ช่วยเสมือนที่สามารถตอบคำถาม เช่น เวลาทำการ, ราคา, และคุณสมบัติสินค้า
ระดับที่ 2: Reasoning AI (AI ให้เหตุผล)
AI ในระดับนี้มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ซักถามเพิ่มเติม และใช้เหตุผลเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การตัดสินใจหรือการวางแผน สามารถทำข้อสอบยากๆได้ค่าเฉลี่ยที่สูงกว่ามนุษย์
ตัวอย่าง:
• ปัญหา: วิเคราะห์ความเสี่ยงของลูกค้าสำหรับการอนุมัติสินเชื่อ
• แนวทางการใช้งาน: ประมวลผลข้อมูลเครดิต คำนวณอัตราความเสี่ยง และให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการอนุมัติ
ระดับที่ 3: Agentic AI (AI ตัวแทนอัตโนมัติ)
AI ที่ระดับนี้สามารถดำเนินงานแทนมนุษย์อย่างอัตโนมัติ เช่น วางแผน ตัดสินใจ และดำเนินการในสถานการณ์ที่ซับซ้อน สามารถเรียกใช้เครื่องมือเพื่อเข้าถึงระบบหรือข้อมูลเพิ่มเติมได้
ตัวอย่างการใช้งานในองค์กร:
• ปัญหา: การคัดกรองและจัดการผู้สมัครงานจำนวนมาก
• แนวทางการใช้งาน:
• AI วิเคราะห์ประวัติย่อและคุณสมบัติของผู้สมัครโดยอัตโนมัติ
• วางตารางสัมภาษณ์ จัดการอีเมลตอบกลับ และติดตามสถานะการสมัคร
• ตัดสินใจคัดเลือกผู้สมัครที่ตรงตามเงื่อนไขและกำหนดการทดสอบหรือสัมภาษณ์
ระดับที่ 4: Innovators (AI ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม)
AI ในระดับนี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหา แต่ยังสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ และสร้างแนวคิดที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีหรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่าง:
• ปัญหา: ออกแบบวัสดุใหม่ที่มีคุณสมบัติทนทานและน้ำหนักเบา
• แนวทางการใช้งาน: วิเคราะห์ข้อมูลวัสดุที่มีอยู่ คำนวณคุณสมบัติทางเคมี และออกแบบวัสดุใหม่เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม
ระดับที่ 5: Organizers (AI บริหารจัดการองค์กร)
AI ที่ระดับนี้สามารถบริหารและจัดการองค์กรขนาดเล็กได้ เช่น การควบคุมกระบวนการผลิต วางแผนทรัพยากร และจัดการบุคลากร
ตัวอย่าง:
• ปัญหา: บริหารซัพพลายเชนที่มีซัพพลายเออร์หลายรายทั่วโลก
• แนวทางการใช้งาน: วิเคราะห์ข้อมูลการขนส่ง คาดการณ์ความต้องการสินค้า และจัดตารางการจัดส่งโดยอัตโนมัติ
สรุป:
การพัฒนาของ AI ถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับ เริ่มตั้งแต่ Conversational AI (ระดับ 1) ที่เน้นการสื่อสารและโต้ตอบอย่างมีประสิทธิภาพ ไปจนถึง Organizers AI (ระดับ 5) ที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรขนาดใหญ่ได้อย่างอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI ไม่ได้หยุดอยู่แค่การบรรลุเป้าหมายของ AGI (Artificial General Intelligence) ที่สามารถทำงานเทียบเท่ามนุษย์ในทุกด้านได้เท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในระดับที่เราอาจจินตนาการไม่ถึง
อนาคตของ AI อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกแง่มุมของชีวิต ตั้งแต่การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปจนถึงการเปลี่ยนวิธีการทำงานและการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ทำให้การพัฒนา AI เป็นเส้นทางที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ในวันนี้ อาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาในอนาคตที่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
Comments